ทำไมการเข้าใจ Design Pattern จึงสำคัญสำหรับโครงการขนาดใหญ่เช่น Odoo

ในโครงการขนาดใหญ่เช่น Odoo ซึ่งระบบถูกออกแบบให้มีความเป็นโมดูล (Modular) ขยายตัวได้ (Extensible) และปรับตัวได้สำหรับความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย Design Pattern มีบทบาทสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในงานออกแบบซอฟต์แวร์ ช่วยให้ระบบยังคงดูแลรักษาง่าย ขยายตัวได้ และมีประสิทธิภาพในระยะยาว

เหตุผลที่เราต้องเข้าใจ Design Pattern มีดังนี้:


1. ส่งเสริมการนำโค้ดกลับมาใช้ซ้ำ (Code Reusability)

  • Design Pattern มอบโซลูชันมาตรฐานที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำโครงสร้างโค้ดกลับมาใช้ซ้ำในโมดูลและฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้
  • ใน Odoo โมดูลต่าง ๆ ใช้ Pattern ร่วมกัน เช่น Active Record สำหรับโมเดล เพื่อช่วยลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ

2. ทำให้ระบบดูแลรักษาได้ง่าย (Maintainability)

  • โครงการขนาดใหญ่มักมีนักพัฒนาหลายคนทำงานร่วมกันในระยะยาว Design Pattern ช่วยให้โค้ดเข้าใจง่ายและดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น
  • ตัวอย่างเช่น MVC Pattern ใน Odoo ช่วยแยกหน้าที่การทำงานระหว่าง Business Logic (Model) และ UI (View) ออกจากกัน

3. ช่วยให้ระบบขยายตัวได้ (Scalability)

  • เมื่อธุรกิจเติบโต ระบบ ERP ต้องปรับตัวให้รองรับข้อมูลและความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นได้ Pattern เช่น Lazy Loading และ Registry ใน Odoo ช่วยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ระบบขยายตัวได้ง่าย

4. เสริมสร้างการทำงานร่วมกัน (Collaboration)

  • Design Pattern มอบ “ภาษากลาง” ที่นักพัฒนาสามารถเข้าใจร่วมกันได้ ช่วยให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ใน Odoo การเข้าใจ Pattern เช่น Decorator และ Observer ช่วยให้ทีมสามารถขยายฟังก์ชันการทำงานได้โดยไม่รบกวน Logic หลักของระบบ

5. ส่งเสริมความเป็นโมดูล (Modularity)

  • โครงสร้างแบบโมดูลของ Odoo อาศัย Pattern เพื่อให้ส่วนประกอบแต่ละส่วน (Module) สามารถเพิ่ม ลบ หรือปรับปรุงได้อย่างอิสระ
  • ตัวอย่างเช่น Dependency Injection ช่วยให้โมดูลต่าง ๆ ทำงานร่วมกันโดยไม่ผูกติดกันจนเกินไป

6. ลดระยะเวลาในการพัฒนา (Development Time)

  • นักพัฒนาสามารถใช้ Pattern ที่มีอยู่แล้วในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว แทนที่จะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์
  • เช่น การใช้ Factory Pattern ทำให้การสร้างโมเดลหรือ Workflow ใหม่ ๆ ใน Odoo ง่ายขึ้น

7. ปรับปรุงคุณภาพโค้ด (Code Quality)

  • Pattern ช่วยให้นักพัฒนาปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ส่งผลให้โค้ดสะอาดและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  • เช่น การใช้ Singleton Pattern เพื่อจัดการอินสแตนซ์เดียวของ Environment ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลใน Odoo มีความสม่ำเสมอ

สรุป

การเข้าใจ Design Pattern เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาที่ทำงานในโครงการขนาดใหญ่เช่น Odoo ไม่เพียงแต่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพทางเทคนิคของระบบ แต่ยังช่วยให้ระบบสามารถพัฒนาไปตามความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าใจ Pattern เหล่านี้ นักพัฒนาจะสามารถสร้างระบบที่เชื่อถือได้ ปรับตัวได้ และพร้อมรองรับอนาคต


ส่วนถัดไปจะอธิบาย Design Pattern สำคัญที่ใช้ใน Odoo พร้อมแสดงตัวอย่างการใช้งานและภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

1. Model-View-Controller (MVC)

คำอธิบาย: แบ่งแอปพลิเคชันออกเป็นสามส่วนที่เชื่อมโยงกัน: Model, View และ Controller ซึ่งช่วยแยกความรับผิดชอบและทำให้ระบบมีความเป็นโมดูล

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: ใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของระบบ เช่น Model สำหรับข้อมูล, View สำหรับการแสดงผล, และ Controller สำหรับการจัดการคำขอของผู้ใช้

classDiagram
    class Model {
        +data
        +create()
        +read()
        +update()
        +delete()
    }
    class View {
        +display(data)
        +getInput()
    }
    class Controller {
        +handleRequest()
        +updateModel(data)
    }
    Model --> Controller : updates
    Controller --> View : renders
    View --> Controller : user actions

2. Active Record Pattern

คำอธิบาย: วัตถุหนึ่งตัวแทนแถวหนึ่งในตารางฐานข้อมูล และมีเมธอดสำหรับการดำเนินการ CRUD (Create, Read, Update, Delete)

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: ORM ของ Odoo ใช้โมเดลในการจัดการตารางฐานข้อมูล

classDiagram
    class ActiveRecord {
        +id
        +save()
        +delete()
        +find()
    }
    ActiveRecord <|-- Partner : ORM Model

3. Observer Pattern

คำอธิบาย: อนุญาตให้ออบเจกต์ (Observers) สมัครสมาชิกเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อสถานะของออบเจกต์หลัก (Subject) เปลี่ยนไป

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: ใช้กับฟิลด์ที่คำนวณได้และ workflow

classDiagram
    class Subject {
        +attach(observer)
        +detach(observer)
        +notify()
    }
    class Observer {
        +update()
    }
    Subject --> Observer : notifies

4. Dependency Injection

คำอธิบาย: วัตถุจะได้รับ dependencies ที่จำเป็นใน runtime แทนการสร้างภายใน ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและสามารถทดสอบได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: โมดูลใน Odoo ทำงานร่วมกับบริการภายนอกผ่านการ injection

classDiagram
    class Service {
        +operation()
    }
    class Module {
        +Service service
    }
    Module --> Service : injects

5. Registry Pattern

คำอธิบาย: ใช้ Registry กลางในการจัดเก็บและเข้าถึงวัตถุแบบไดนามิก

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: ใช้ในการจัดเก็บโมเดลทั้งหมดในระบบ runtime

classDiagram
    class Registry {
        +getModel(name)
        +registerModel(name, model)
    }
    class Model {
        +operation()
    }
    Registry --> Model : stores

6. Lazy Loading

คำอธิบาย: วัตถุจะถูกโหลดก็ต่อเมื่อมีการเรียกใช้งานจริง ๆ เพื่อประหยัดหน่วยความจำและทรัพยากร

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: ฟิลด์ที่มีความสัมพันธ์ (e.g., many2one) จะโหลดเมื่อถูกเรียกใช้

classDiagram
    class Proxy {
        +request()
    }
    class RealObject {
        +operation()
    }
    Proxy --> RealObject : initializes on demand

7. Singleton Pattern

คำอธิบาย: รับประกันว่าจะมีเพียงอินสแตนซ์เดียวของคลาสในแอปพลิเคชัน

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: Environment ของ Odoo (odoo.api.Environment) ใช้ Singleton Pattern เพื่อจัดการการทำงานของโมเดลในแต่ละคำขอ

classDiagram
    class Singleton {
        -instance
        +getInstance()
    }

8. Decorator Pattern

คำอธิบาย: เพิ่มฟังก์ชันใหม่ให้กับออบเจกต์โดยไม่แก้ไขโครงสร้าง

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: Python decorators เช่น @api.depends และ @api.onchange

classDiagram
    class Component {
        +operation()
    }
    class Decorator {
        +operation()
    }
    class ConcreteComponent {
        +operation()
    }
    Decorator --> Component
    ConcreteComponent --> Decorator

9. Template Method Pattern

คำอธิบาย: กำหนดโครงสร้างวิธีการในคลาสหลัก และให้คลาสย่อยสามารถ override เฉพาะบางส่วนได้

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: โมเดลที่มีเมธอดคำนวณสามารถปรับแต่งในโมดูลย่อย

classDiagram
    class AbstractClass {
        +templateMethod()
        #primitiveOperation1()
        #primitiveOperation2()
    }
    class ConcreteClass {
        #primitiveOperation1()
        #primitiveOperation2()
    }
    AbstractClass --> ConcreteClass

10. Factory Pattern

คำอธิบาย: ใช้สร้างออบเจกต์โดยไม่ต้องระบุคลาสที่แน่นอน

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: การสร้างโมเดลใหม่หรือการจัดการเอกสารในระบบ

classDiagram
    class Factory {
        +createProduct(type)
    }
    class Product {
        +operation()
    }
    class ConcreteProduct1
    class ConcreteProduct2
    Factory --> Product
    Product <|-- ConcreteProduct1
    Product <|-- ConcreteProduct2

11. Composite Pattern

คำอธิบาย: ใช้กับข้อมูลแบบลำดับชั้น เช่น โครงสร้างหมวดหมู่หรือ Parent-Child

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: โครงสร้างหมวดหมู่สินค้า

classDiagram
    class Component {
        +operation()
    }
    class Leaf {
        +operation()
    }
    class Composite {
        +operation()
        +add(component)
        +remove(component)
    }
    Composite --> Component
    Leaf --> Component

12. Proxy Pattern

คำอธิบาย: เป็นตัวแทนควบคุมการเข้าถึงวัตถุจริง

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: ใช้กับ Access Control และ Deferred Loading

classDiagram
    class Proxy {
        +request()
    }
    class RealObject {
        +request()
    }
    Proxy --> RealObject : delegates

13. Builder Pattern

คำอธิบาย: ใช้สร้างวัตถุที่ซับซ้อนทีละขั้นตอน
ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: Wizards หรือ Transient Models

classDiagram
    class Builder {
        +buildPart()
        +getResult()
    }
    class ConcreteBuilder {
        +buildPart()
        +getResult()
    }
    class Director {
        +construct()
    }
    Builder <|-- ConcreteBuilder
    Director --> Builder

14. Strategy Pattern

คำอธิบาย: ห่อหุ้มอัลกอริธึมหลายรูปแบบและทำให้สลับใช้งานได้

ตัวอย่างการใช้งานใน Odoo: การประมวลผลการชำระเงินหรือการเชื่อมต่อระบบขนส่ง

classDiagram
    class Context {
        +setStrategy(strategy)
        +executeStrategy()
    }
    class Strategy {
        +execute()
    }
    class ConcreteStrategyA
    class ConcreteStrategyB
    Context --> Strategy
    Strategy <|-- ConcreteStrategyA
    Strategy <|-- ConcreteStrategyB

Articles

Our Products


Articles

Our Products


Get in Touch with us

Speak to Us or Whatsapp(+66) 83001 0222

Chat with Us on LINEiiitum1984

Our HeadquartersChanthaburi, Thailand