การใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว: เรียนรู้จากญี่ปุ่น

สวัสดีครับ/ค่ะ! วันนี้อยากชวนมาคุยเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นใช้ ข้อมูล (Data) เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นคนในไทยที่อยากพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ของคุณ หรือเป็นคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น ลองมาดูกันว่ามีอะไรที่เราสามารถเรียนรู้ได้บ้าง

ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ไม่เพียงเพราะวัฒนธรรมและธรรมชาติที่โดดเด่น แต่ยังเพราะเขาใช้ เทคโนโลยีและข้อมูล ช่วยบริหารจัดการให้ทุกอย่างราบรื่น เรามาดูรายละเอียดกันครับ/ค่ะ


ข้อมูลช่วยอะไรได้บ้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว?

ลองนึกถึง “ข้อมูล” ว่าเป็นเหมือนเครื่องมือวิเศษที่ช่วยตอบคำถามสำคัญ เช่น:

  • จะทำยังไงให้สถานที่ท่องเที่ยวไม่แออัดจนเกินไป?
  • จะโปรโมตพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักยังไงดี?
  • ควรตั้งราคาค่าเข้าเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?

ญี่ปุ่นรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น สัญญาณโทรศัพท์มือถือ การขายตั๋ว การจ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัล และแม้แต่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย เพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจในสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ญี่ปุ่นทำได้อย่างไร?

1. การจัดการคนในพื้นที่แออัด

เคยไปสถานที่ที่คนเยอะจนเดินแทบไม่ได้ไหม? ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงปัญหานี้ด้วย ระบบจัดการคนแบบเรียลไทม์ เขาใช้เซ็นเซอร์และข้อมูลจากมือถือเพื่อตรวจสอบจำนวนคนในพื้นที่ และหากสถานที่ใดคนเยอะเกินไป ก็จะแนะนำสถานที่อื่นแทน เช่น:

  • ในเกียวโต ระบบจะช่วยกระจายคนไปยังวัดที่มีคนไม่เยอะในช่วงเวลานั้น
  • บนภูเขาไฟฟูจิ เขาจะจำกัดจำนวนคนที่ขึ้นปีนในช่วงฤดูท่องเที่ยว

2. โปรโมตพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก

ทุกคนรู้จักโตเกียวและเกียวโต แต่ญี่ปุ่นยังส่งเสริมพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนไป เช่น ภาคโทโฮคุหรือชิโกกุ โดยใช้ข้อมูลเพื่อระบุว่าพื้นที่ไหนมีคนเยี่ยมน้อย แล้วเปิดแคมเปญโปรโมตให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งช่วยกระจายรายได้ไปยังชุมชนเล็ก ๆ

3. การพัฒนาระบบขนส่งที่ล้ำสมัย

ระบบขนส่งของญี่ปุ่น เช่น ชินคันเซ็นนั้นโด่งดังอยู่แล้ว แต่เขายังใช้ข้อมูลเพื่อให้ดียิ่งขึ้น เช่น:

  • แอปอย่าง HyperDia จะบอกเส้นทางที่เร็วที่สุด ตารางเวลาที่อัปเดต และการเชื่อมต่อระหว่างขบวนรถไฟ
  • หากสถานีรถไฟใดมีคนเยอะเกินไป ก็สามารถเพิ่มขบวนรถไฟหรือแนะนำเส้นทางอื่นได้ทันที

4. สร้างประสบการณ์ส่วนตัว

ถ้าคุณชอบซูชิ ประวัติศาสตร์ หรือการเดินป่า ระบบของญี่ปุ่นสามารถแนะนำสถานที่หรือกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจของคุณ โดยใช้ข้อมูลจากนักท่องเที่ยวคนอื่นที่มีความสนใจคล้ายกัน เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวติดตัวตลอดการเดินทาง

5. การอนุรักษ์ธรรมชาติ

การท่องเที่ยวอาจทำลายธรรมชาติได้ถ้าไม่ได้รับการจัดการ ญี่ปุ่นใช้ เซ็นเซอร์ IoT เพื่อตรวจสอบสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษและการกัดเซาะของดิน หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบมากเกินไป ก็อาจปิดชั่วคราวเพื่อฟื้นฟู เช่น ในเมืองฮาโกเนะหรือเขตอนเซ็น


สิ่งที่ไทยเรียนรู้ได้จากญี่ปุ่น

ถ้าคุณเป็นผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ลองดูไอเดียเหล่านี้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้:
1.กระจายจำนวนนักท่องเที่ยว
สถานที่ยอดนิยมอย่างภูเก็ตหรือเชียงใหม่อาจแน่นในช่วงฤดูท่องเที่ยว ลองโปรโมตพื้นที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก เช่น น่าน นครศรีธรรมราช หรือเลย โดยใช้แคมเปญในโซเชียลมีเดีย

2.ใช้ระบบจัดการคนแบบเรียลไทม์
ติดตั้งเซ็นเซอร์ในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ตลาดน้ำหรือวัด และใช้ข้อมูลเพื่อแนะนำเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม

3.เน้นความยั่งยืน
อุทยานแห่งชาติและชายหาดในไทยมีความสวยงามที่ต้องรักษา ลองใช้แนวคิดการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วยเซ็นเซอร์เหมือนที่ญี่ปุ่นทำ

4.พัฒนาการเดินทาง
สร้างแอปที่ให้ข้อมูลเส้นทางและบริการขนส่งในเมืองต่าง ๆ พร้อมฟีเจอร์หลายภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว


สำหรับคนที่วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น

ถ้าคุณกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น นี่คือสิ่งที่ข้อมูลช่วยคุณได้:

  • ลดการรอคอย: แอปจะบอกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่ โดยไม่ต้องรอนาน
  • ค้นพบสถานที่ใหม่: คุณอาจได้ไปเมืองเล็ก ๆ หรือจุดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
  • เดินทางสะดวก: ระบบขนส่งและแอปนำทางช่วยให้คุณไม่หลงทาง
  • เที่ยวอย่างยั่งยืน: คุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่ได้รับการดูแลอย่างดี

บทสรุป: อนาคตของการท่องเที่ยวไทย

ประเทศไทยมีศักยภาพมหาศาลในด้านการท่องเที่ยว แต่ถ้าเรานำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ให้เหมาะสม เราจะสามารถยกระดับได้อีกขั้น ลองจินตนาการถึงประเทศไทยที่:

  • วัดพระแก้วไม่แออัดจนเกินไป
  • เกาะสมุยยังคงสวยงามด้วยการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี
  • นักท่องเที่ยวได้ค้นพบสถานที่ที่ไม่เคยรู้จักผ่านแอปส่วนตัว

ถ้าญี่ปุ่นทำได้ ไทยก็ทำได้! มาช่วยกันทำให้การท่องเที่ยวชาญฉลาด ยั่งยืน และน่าประทับใจยิ่งขึ้นครับ/ค่ะ 😊

Articles

Our Products


Articles

Our Products


Get in Touch with us

Speak to Us or Whatsapp(+66) 83001 0222

Chat with Us on LINEiiitum1984

Our HeadquartersChanthaburi, Thailand