พัฒนา E-commerce แบบ Fullstack ด้วย JavaScript

ครอบคลุมตั้งแต่หน้าร้านถึงระบบหลังบ้าน ด้วยภาษาเดียว


🛠️ ทำไมต้อง JavaScript?

ในอดีต JavaScript คือภาษาสำหรับสร้างปุ่มให้กระพริบ แต่วันนี้ JavaScript กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ใช้สร้างระบบ E-commerce ครบวงจร ได้ทั้งฝั่งหน้าเว็บ (Frontend) และฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Backend)

ในบทความนี้ เราจะพาคุณพัฒนาเว็บไซต์ขายของตั้งแต่หน้าบ้านยันระบบจัดการหลังบ้าน ด้วย JavaScript เพียงภาษาเดียว


🧱 เทคโนโลยีที่ใช้

ส่วน เครื่องมือ หน้าที่
Frontend React.js / Next.js หน้าร้านแสดงสินค้า
Backend Node.js + Express.js จัดการ API และ Logic
Database MongoDB / PostgreSQL จัดเก็บสินค้า, ผู้ใช้, คำสั่งซื้อ
Auth JWT / OAuth / Auth0 ระบบล็อกอินและความปลอดภัย
State Mgmt Redux / Zustand จัดการตะกร้า/สถานะ
Payments Stripe / PayPal ระบบชำระเงิน
Image Upload Multer / Cloudinary จัดการรูปภาพสินค้า
Tools Vite / Webpack ช่วยพัฒนาและ Build ระบบ

🖼️ ขั้นตอนที่ 1: ออกแบบข้อมูล

สิ่งที่ต้องวางแผนก่อนเริ่มคือ โครงสร้างข้อมูลหลัก:

  • User: ชื่อ, อีเมล, รหัสผ่าน (เข้ารหัส), สถานะ (ลูกค้าหรือผู้ดูแล)
  • Product: ชื่อ, คำอธิบาย, ราคา, หมวดหมู่, รูปภาพ, สต็อก
  • Order: ลูกค้า, รายการสินค้า, ยอดรวม, สถานะการจ่าย, ที่อยู่จัดส่ง
  • Cart: (อาจเก็บชั่วคราวแบบ local storage)

ใช้ Mongoose สำหรับ MongoDB หรือ Prisma หากใช้ PostgreSQL


💻 ขั้นตอนที่ 2: สร้าง API ด้วย Express

สร้าง backend ง่าย ๆ:

mkdir ecommerce-backend && cd ecommerce-backend
npm init -y
npm install express mongoose cors dotenv

ตัวอย่าง route:

app.get('/api/products', async (req, res) => {
  const products = await Product.find();
  res.json(products);
});

อย่าลืมเปิดใช้งาน CORS และป้องกันเส้นทาง (route) ที่สำคัญ


🎨 ขั้นตอนที่ 3: สร้างหน้าร้านด้วย React หรือ Next.js

สร้างหน้าร้าน:

npx create-react-app ecommerce-frontend

หรือหากต้องการ SEO ที่ดีกว่า:

npx create-next-app ecommerce-frontend

หน้าหลัก:

  • / — รายการสินค้า
  • /product/:id — รายละเอียดสินค้า
  • /cart — ตะกร้าสินค้า
  • /checkout — ชำระเงิน
  • /login & /register — เข้าสู่ระบบ/สมัครสมาชิก

🛒 ขั้นตอนที่ 4: จัดการตะกร้าสินค้า

ใช้ Zustand หรือ Redux Toolkit:

import { create } from 'zustand';

const useCart = create((set) => ({
  items: [],
  addToCart: (item) => set((state) => ({
    items: [...state.items, item]
  })),
}));

เก็บข้อมูลไว้ใน localStorage เพื่อไม่ให้หายเวลา reload


🔐 ขั้นตอนที่ 5: ระบบล็อกอิน

  • เข้ารหัสรหัสผ่านด้วย bcrypt
  • สร้าง token ด้วย jsonwebtoken
  • สร้าง middleware ป้องกันเส้นทางสำคัญ

ฝั่ง frontend เก็บ token ใน cookie หรือ memory


💸 ขั้นตอนที่ 6: ระบบชำระเงินด้วย Stripe

Frontend:

const stripe = await loadStripe('your-publishable-key');
const { sessionId } = await fetch('/api/create-checkout-session');
stripe.redirectToCheckout({ sessionId });

Backend รับ webhook เพื่อยืนยันการชำระและอัปเดตสถานะออเดอร์


🖼️ ขั้นตอนที่ 7: อัปโหลดรูปสินค้า

ใช้ Multer:

const multer = require('multer');
const upload = multer({ dest: 'uploads/' });

app.post('/upload', upload.single('image'), (req, res) => {
  res.send({ imageUrl: `/uploads/${req.file.filename}` });
});

หรือใช้ Cloudinary สำหรับการใช้งานจริง


🧪 ขั้นตอนที่ 8: ทดสอบระบบ

  • ใช้ Jest ทดสอบฟังก์ชัน
  • Supertest สำหรับ API
  • Cypress สำหรับ UI แบบ end-to-end

🌍 ขั้นตอนที่ 9: เปิดใช้งานออนไลน์

  • Frontend: Vercel หรือ Netlify
  • Backend: Render, Railway หรือ VPS
  • Database: MongoDB Atlas, Neon
  • ใช้ .env เก็บ key สำคัญ

✅ สรุป

JavaScript คือพลังที่คุณใช้สร้างระบบขายของออนไลน์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยเครื่องมือเดียว คุณสามารถสร้างประสบการณ์การซื้อขายที่รวดเร็ว, ปลอดภัย และพร้อมเติบโต


🧠 อยากยกระดับอีก?

  • สร้าง Admin Dashboard ด้วย Chart.js
  • เพิ่มระบบค้นหาสินค้า (ElasticSearch หรือ filter ธรรมดา)
  • เพิ่มระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ด้วย Socket.io
  • ใช้ Next.js สำหรับ SEO + SSR ที่เร็ว

ร้านค้าออนไลน์ของคุณ ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ — มันคือธุรกิจ
และ JavaScript คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสร้างมันขึ้นมา

Related Posts

Our Products


Related Posts

Our Products


Get in Touch with us

Speak to Us or Whatsapp(+66) 83001 0222

Chat with Us on LINEiiitum1984

Our HeadquartersChanthaburi, Thailand