การใช้ LSTM ในการพยากรณ์ระดับน้ำท่วม: ทางออกใหม่ของเมืองไทยเพื่อรับมือฝนตกหนักและน้ำรอระบาย
ประเทศไทย โดยเฉพาะ “กรุงเทพฯ–ปริมณฑล” เผชิญปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมขังหลังฝนตก, น้ำล้นคลอง, หรือผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน การบริหารจัดการน้ำแบบเดิมอาศัยแบบจำลองทางวิศวกรรม เช่น Rational Method หรือ Manning’s Equation ซึ่งดีสำหรับงานออกแบบโครงสร้าง แต่ไม่เพียงพอสำหรับการคาดการณ์แบบเรียลไทม์ที่มี ความซับซ้อนและความแปรปรวนสูง
ในยุคที่เมืองไทยมีฝนตกหนักเร็วขึ้น ถนนปิดเร็วขึ้น และประชาชนต้องการข้อมูลล่วงหน้า เทคโนโลยี LSTM (Long Short-Term Memory) จึงกลายเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับพยากรณ์ ระดับน้ำล่วงหน้าแบบแม่นยำระดับชั่วโมง เพื่อช่วยให้เมืองเตรียมรับมือน้ำได้ก่อนที่น้ำจะท่วมจริง
บทความนี้จะอธิบายว่า LSTM คืออะไร, ทำงานอย่างไร และ ทำไมจึงเหมาะกับประเทศไทย
🧠 LSTM คืออะไร?
LSTM เป็นโมเดล Deep Learning ประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผล “ข้อมูลตามลำดับเวลา” (Time Series) เช่น ระดับน้ำรายชั่วโมง ปริมาณฝนรายนาที หรือข้อมูลเซนเซอร์ IoT จากเสาโทรมาตรในคลอง
แตกต่างจาก RNN ทั่วไป LSTM มี “หน่วยความจำยาว” ช่วยให้จำลำดับเหตุการณ์ได้ดี เช่น:
- ฝนตก 20–30 นาทีแรกยังไม่ท่วม
- แต่ถ้าฝนตกยาวเกิน 90 นาทีระดับน้ำจะขึ้นเร็ว
- ถ้าวันก่อนหน้ามีฝนตกหนัก ดินอิ่มน้ำแล้ว น้ำจะไหลบ่ามากขึ้น
พฤติกรรมเช่นนี้เป็น ลักษณะเฉพาะของระบบน้ำท่วมในไทย และ LSTM ก็จัดการได้ดีมาก
🇹🇭 ทำไมประเทศไทยต้องใช้ LSTM?
ประเทศไทยมีปัจจัยที่ทำให้การพยากรณ์น้ำท่วมยากกว่าหลายประเทศ:
✔ 1. ฝนตกหนักแบบเฉียบพลัน (Flash Flood)
เกิดบ่อยในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี พัทยา
✔ 2. น้ำทะเลหนุน
แม่น้ำเจ้าพระยามีปรากฏการณ์น้ำหนุนช่วงเช้า–เย็น
ทำให้ระบบระบายน้ำฝั่งกรุงเทพฯ การไหลออกช้าลง
✔ 3. คลองจำนวนมากเชื่อมถึงกัน
ระบบน้ำไหลแบบ “ซับซ้อนและไม่เชิงเส้น” เหมาะกับ LSTM มากกว่าโมเดลสถิติธรรมดา
✔ 4. พื้นที่ลุ่มต่ำและน้ำรอระบาย
ในบางพื้นที่ น้ำไม่ไหลทันเพราะความชันต่ำ การพยากรณ์ต้องอาศัยข้อมูลก่อนหน้า
✔ 5. เมืองขยายเร็ว ผิวคอนกรีตเพิ่มขึ้น
ทำให้น้ำท่วมเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว — LSTM เรียนรู้แพทเทิร์นเหล่านี้ได้เอง
📊 LSTM ทำงานอย่างไรในระบบพยากรณ์น้ำท่วมของไทย?
ระบบ Smart Flood ของไทยสามารถส่งข้อมูลเข้า LSTM ได้ดังนี้:
ข้อมูลที่ใส่เข้าโมเดล (Input Features):
- ปริมาณฝน (เรดาร์กรมอุตุฯ)
- ระดับน้ำคลอง (TM เชื่อม IoT)
- ความเร็วการไหลของน้ำ
- สถานะเครื่องสูบน้ำ
- ระดับน้ำทะเลหนุน
- สภาพดินอิ่มน้ำ
- ความชื้น อุณหภูมิ ความกดอากาศ
ผลลัพธ์ (Output):
- พยากรณ์ระดับน้ำ 1–6 ชั่วโมงล่วงหน้า
- พยากรณ์โอกาสเกิดน้ำท่วม
- เวลาที่น้ำจะสูงเกินระดับวิกฤต
สามารถใช้งานได้ทั้งใน:
- กรุงเทพฯ (คลองประเวศบุรีรมย์, คลองภาษีเจริญ, คลองแสนแสบ)
- พื้นที่อุตสาหกรรม (นิคมอมตะ, นิคมลาดกระบัง)
- เมืองใหญ่ (เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น)
🌊 ตัวอย่างการทำงานจริง
Stations:
- คลองลาดพร้าว: 65 cm → forecast 75 cm (อีก 2 ชม.)
- คลองแสนแสบ: ฝน 32 mm → ระดับน้ำขึ้นเร็ว
- ปากแม่น้ำ: น้ำทะเลหนุน +12 cm
ระบบสั่งงาน:
→ เตรียมเดินเครื่องสูบน้ำ
→ แจ้งเตือนเขตใกล้เคียง
→ แจ้งจราจรหลีกเลี่ยงเส้นลาดพร้าว–รัชดาฯ
เมืองได้รับการแจ้งเตือนก่อนน้ำท่วมจริง 1–3 ชั่วโมง
🛰️ LSTM + IoT = ระบบน้ำอัจฉริยะของเมืองไทย
เมื่อเชื่อมต่อกับ IoT ระบบจะทำงานดังนี้:
1. เก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์
- เซนเซอร์ในคลอง (Telemeter)
- ปริมาณฝนจากเรดาร์
- ระดับน้ำเจ้าพระยา
- สถานะเครื่องสูบตามจุดต่าง ๆ
2. ส่งเข้าระบบ Cloud / Command Center
3. LSTM พยากรณ์ระดับน้ำ
4. ระบบสั่งงานอัตโนมัติ
- เปิด/ปิดเครื่องสูบน้ำ
- ปิดประตูระบายน้ำ
- แจ้งเตือนประชาชน
- แจ้ง กทม. และกรมป้องกันฯ
🛠 ตัวอย่างโค้ด PyTorch สำหรับพยากรณ์น้ำท่วมในไทย
import torch
import torch.nn as nn
class ThaiFloodLSTM(nn.Module):
def __init__(self, input_size=5, hidden_size=64, num_layers=2):
super().__init__()
self.lstm = nn.LSTM(input_size, hidden_size, num_layers, batch_first=True)
self.fc = nn.Linear(hidden_size, 1)
def forward(self, x):
out, _ = self.lstm(x)
result = self.fc(out[:, -1, :])
return result
Input features ตัวอย่าง:
- ปริมาณฝน
- ระดับน้ำคลอง
- น้ำทะเลหนุน
- ความชื้น
- สถานะเครื่องสูบน้ำ
📌 ประโยชน์สำหรับเมืองไทย
✔ ทำนายก่อนท่วมจริง
รู้ก่อน 1–6 ชั่วโมง ช่วยวางแผนได้ทัน
✔ ใช้น้ำพลังงานเครื่องสูบน้ำลดลง
สั่งปั๊มตอนจำเป็นเท่านั้น ไม่ต้องเปิดทั้งวัน
✔ ลดผลกระทบเศรษฐกิจ
น้ำท่วมน้อยลง ถนนไม่ต้องปิดนาน
✔ ช่วยวางแผนจราจร
เชื่อมกับข้อมูลจากกล้อง AI และ Traffic API ได้
✔ รองรับเมืองไทยทุกขนาด
ตั้งแต่ อบต. ไปจนถึงมหานคร
🧩 Pipeline ของระบบพยากรณ์น้ำท่วมด้วย LSTM (ปรับสำหรับไทย)
ฝนตก / เรดาร์กรมอุตุ
↓
ระดับน้ำคลองจริง (TM)
↓
รวมข้อมูลจากเซนเซอร์
↓
LSTM Model
↓
คาดการณ์ระดับน้ำล่วงหน้า
↓
คำสั่งเครื่องสูบน้ำ / แจ้งเตือนประชาชน / จัดการจราจร
📌 สรุป
LSTM เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ประเทศไทย เปลี่ยนจากการรับมือน้ำแบบ Reactive → Proactive
ด้วย:
- ข้อมูลฝนและระดับน้ำเรียลไทม์
- Deep Learning
- ระบบ IoT
- การสั่งงานอัตโนมัติ
เมืองไทยสามารถลดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิมหลายเท่า
Get in Touch with us
Related Posts
- SimpliPOSFlex. POS สำหรับธุรกิจที่อยู่บนความจริงของหน้างาน
- แนวคิดการเขียนโปรแกรมแบบคลาสสิก: บทเรียนที่เรายังได้เรียนรู้จาก Kernighan & Pike
- ก่อนจะเริ่มเขียนโค้ด: 5 คำถามที่เราถามลูกค้าทุกครั้ง
- ทำไมระบบที่ทำกำไรได้ อาจไม่มีคุณค่าที่แท้จริง
- โลกของเธอ
- สร้างระบบ Automation ที่เชื่อถือได้ด้วย Temporal + Local LLM + Robot Framework แนวทางสำหรับองค์กรไทยที่ต้องการ Automate งานบัญชี-ERP อย่างปลอดภัย
- RPA + AI: ทำไมระบบอัตโนมัติถึงล้มเหลว หากไม่มี “ความฉลาด” และการควบคุมที่ดี
- การจำลองความขัดแย้งชายแดนและ Proxy War
- แก้ “การค้นหาและการเข้าถึง” ก่อน ก้าวแรกที่เร็วที่สุดในการฟื้นคุณค่าห้องสมุดมหาวิทยาลัยในยุคดิจิทัล
- เรากำลังสร้างแพลตฟอร์มใหม่ สำหรับโรงงานที่ขายเศษวัสดุ และโรงงานรีไซเคิลในประเทศไทย
- แนวทางพัฒนา MES ด้วย Python สำหรับโรงงานไทย
- MES vs ERP vs SCADA: บทบาทและขอบเขตที่โรงงานไทยควรรู้
- ทำไมการเรียนเขียนโปรแกรมถึง “เจ็บปวด” — และเราจะแก้มันอย่างไร
- องค์กรควรเลือก AI แบบ GPT หรือ AI แบบ Gemini?
- ตัวอย่างการใช้งานจริงที่ GPT-5.2 เหนือกว่า GPT-5.1 อย่างชัดเจน
- ChatGPT 5.2 vs 5.1 — อธิบายความแตกต่างด้วยอุปมาเข้าใจง่าย
- ทำไมธุรกิจที่กำลังเติบโต มัก “โตเกิน” ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปในที่สุด และบริษัทที่ประสบความสำเร็จเขาจัดการอย่างไร
- Computer Vision บน Edge Device และสภาพแวดล้อมทรัพยากรจำกัด: ความท้าทายและโอกาสสำหรับไทย
- Simplico — โซลูชัน AI Automation และระบบซอฟต์แวร์เฉพาะทางสำหรับธุรกิจไทย
- AI สำหรับ Predictive Maintenance — จากเซนเซอร์สู่โมเดลพยากรณ์













