ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง (Custom Software) กับซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Off-the-Shelf Software): อันไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ?

การเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพ ความสามารถในการขยายตัว และความสำเร็จในระยะยาว คุณมีสองตัวเลือกหลักให้พิจารณา คือซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง (Custom Software) และซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Off-the-Shelf Software) มาดูข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบ พร้อมทั้งตัวอย่างในชีวิตจริง เพื่อช่วยคุณตัดสินใจ


ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองคืออะไร?

ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองคือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับธุรกิจของคุณ โดยตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงของกระบวนการทำงานหรือเป้าหมายขององค์กร

ข้อดีของซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง

1.ปรับแต่งตามความต้องการ
ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการทำงานและความต้องการของธุรกิจโดยเฉพาะ

ตัวอย่าง:
บริษัท Amazon ได้พัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้าและการขนส่งที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมาก

2.ความสามารถในการขยายตัว
ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น

ตัวอย่าง:
Netflix พัฒนาระบบแนะนำเนื้อหาที่ใช้ AI เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมเฉพาะบุคคล ซึ่งสามารถขยายขอบเขตการใช้งานได้เมื่อลูกค้าเพิ่มขึ้นทั่วโลก

3.สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ฟีเจอร์และความสามารถเฉพาะตัวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับธุรกิจของคุณ สามารถช่วยให้คุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

ตัวอย่าง:
Tesla พัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะสำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของพวกเขา ซึ่งช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์และอัลกอริทึมขั้นสูงได้อย่างไร้รอยต่อ

4.การผสานระบบที่ดีขึ้น
ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองสามารถออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่แล้วได้อย่างราบรื่น


ข้อเสียของซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง

1.ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง
การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองต้องการการลงทุนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์สำเร็จรูป

2.ระยะเวลาการพัฒนานาน
การสร้างซอฟต์แวร์ตั้งแต่ต้นต้องใช้เวลา ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการใช้งาน

3.ความรับผิดชอบในการบำรุงรักษา
ธุรกิจอาจต้องรับผิดชอบการอัปเดต การแก้ไขปัญหา และการดูแลซอฟต์แวร์ในระยะยาว


ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปคืออะไร?

ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปคือซอฟต์แวร์ที่พัฒนามาแล้วและพร้อมใช้งานทันที ตัวอย่างได้แก่ Microsoft Office, QuickBooks หรือ Salesforce

ข้อดีของซอฟต์แวร์สำเร็จรูป

1.ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ
ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า เพราะต้นทุนการพัฒนาถูกแบ่งปันระหว่างผู้ใช้หลายราย

ตัวอย่าง:
ธุรกิจขนาดเล็กมักเลือกใช้ QuickBooks สำหรับการบัญชี เนื่องจากใช้งานง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย

2.การใช้งานที่รวดเร็ว
ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสามารถนำมาใช้งานได้ทันที ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่าง:
สตาร์ทอัพหลายแห่งเลือกใช้ Slack สำหรับการสื่อสารในทีม เพราะติดตั้งง่ายและไม่ต้องฝึกอบรมมาก

3.การสนับสนุนจากผู้ให้บริการ
ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปส่วนใหญ่มาพร้อมการอัปเดตเป็นประจำ การสนับสนุนด้านเทคนิค และคู่มือใช้งานที่ครบถ้วน

4.ชุมชนและทรัพยากร
ซอฟต์แวร์ที่เป็นที่ยอมรับมักมีฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่และทรัพยากรออนไลน์มากมายสำหรับการแก้ไขปัญหาและการปรับปรุง


ข้อเสียของซอฟต์แวร์สำเร็จรูป

1.ข้อจำกัดในการปรับแต่ง
อาจต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับซอฟต์แวร์แทนที่จะปรับซอฟต์แวร์ให้เข้ากับธุรกิจของคุณ

2.ปัญหาเรื่องความสามารถในการขยายตัว
ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ดีเท่าซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง

3.ข้อกังวลเรื่องการทำงานร่วมกัน
อาจมีปัญหาในการผสานรวมกับระบบที่มีอยู่แล้ว


สรุป

  • เลือก ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง หากธุรกิจของคุณต้องการโซลูชันที่ปรับแต่งได้สูงและมีความสามารถในการขยายตัว
  • เลือก ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป หากคุณต้องการโซลูชันที่ใช้งานได้รวดเร็วและต้นทุนไม่สูง

ตัวอย่างการตัดสินใจในชีวิตจริง:

  • ร้านเบเกอรี่ขนาดเล็กที่ขยายสาขาอาจเลือกใช้ระบบ POS สำเร็จรูป เช่น Square เพื่อความสะดวกและราคาย่อมเยา
  • ในทางกลับกัน บริษัทการผลิตระดับนานาชาติอาจพัฒนาระบบ ERP เฉพาะ เพื่อรวมกระบวนการผลิต ซัพพลายเชน และการจัดการสินค้าคงคลัง

การประเมินความต้องการและการพิจารณาข้อดีข้อเสียจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ

Articles

Our Products


Articles

Our Products


Get in Touch with us

Speak to Us or Whatsapp(+66) 83001 0222

Chat with Us on LINEiiitum1984

Our HeadquartersChanthaburi, Thailand