ทำไม Test-Driven Development (TDD) ถึงตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่

ซอฟต์แวร์ที่มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด ก่อให้เกิดต้นทุนและความเสียหายต่อธุรกิจมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจของลูกค้า การเสียเวลาทีมงาน หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แล้วถ้าคุณสามารถลดข้อผิดพลาดเหล่านี้ตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้ทีมพัฒนาเปลี่ยนแปลงและส่งมอบงานได้เร็วขึ้น จะดีแค่ไหน? นี่คือเหตุผลว่าทำไม Test-Driven Development (TDD) และแนวคิด Dependency Inversion Principle ถึงสำคัญต่อธุรกิจ


TDD คืออะไร?

TDD คือวิธีการที่นักพัฒนา “เขียนเทสต์” หรือการตรวจสอบเล็ก ๆ ก่อนที่จะเริ่มเขียนโค้ดจริง เทสต์เปรียบเหมือน “เช็กลิสต์” ว่าสิ่งที่เรากำลังจะสร้าง ทำงานได้จริงตามต้องการหรือไม่ จากนั้นจึงเขียนโค้ดเพื่อให้เทสต์ผ่าน

กระบวนการ TDD มี 3 ขั้นตอน:

  1. เขียนเทสต์ก่อน (ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ผ่าน เพราะโค้ดยังไม่มี)
  2. เขียนโค้ด เพื่อให้เทสต์ผ่าน
  3. ปรับปรุงและจัดระเบียบโค้ด (Refactor) ให้เรียบร้อย โดยเทสต์ต้องผ่านเหมือนเดิม

TDD มีประโยชน์กับธุรกิจอย่างไร?

  • ลดข้อผิดพลาด: ปัญหาถูกจับได้ก่อนถึงมือลูกค้า
  • เปลี่ยนแปลงได้เร็ว: นักพัฒนาปรับปรุงและขยายระบบได้โดยไม่ต้องกลัวทำอะไรเสีย
  • โปร่งใส เข้าใจง่าย: แต่ละเทสต์แสดงตัวอย่างที่ชัดเจนว่าโปรแกรมควรทำงานอย่างไร
  • ลดต้นทุนในระยะยาว: เวลาที่ต้องใช้เพื่อแก้บั๊กภายหลังลดลงมาก

เขียนโค้ดให้เทสต์ง่าย เหมือนการแบ่งงานในธุรกิจ

เช่นเดียวกับการแบ่งกระบวนการธุรกิจออกเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ ที่ตรวจสอบได้ง่าย โค้ดที่ดีควรแบ่งเป็นฟังก์ชันย่อย ๆ ที่แต่ละส่วนทดสอบแยกกันได้

ตัวอย่าง: การประมวลผลออร์เดอร์

def validate(order): ...
def save(order): ...
def send_confirmation(order): ...

def process_order(order):
    validate(order)
    save(order)
    send_confirmation(order)

แต่ละขั้นตอนสามารถทดสอบแยกกันได้ ช่วยให้ทีมงานค้นหาและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว


โครงสร้างโค้ดที่ยืดหยุ่น เปลี่ยนง่าย

ซอฟต์แวร์ในโลกจริง มักจะมีฟังก์ชันที่เรียกใช้งานกันไปมา เหมือนกับทีมงานที่มีหน้าที่ชัดเจนในแต่ละขั้นตอน การออกแบบที่ดีจะทำให้เรา “เปลี่ยนหรือทดแทน” ส่วนใดส่วนหนึ่งได้ โดยไม่กระทบส่วนอื่น ๆ


Dependency Inversion Principle: สลับส่วนประกอบได้อิสระ

ลองจินตนาการว่า ในการทดสอบธุรกิจ คุณสามารถสลับเครื่องจักรจริงเป็นเครื่องจำลองราคาถูกได้โดยไม่เสี่ยง ซอฟต์แวร์ที่ดีควร “สลับส่วนประกอบ” ได้เช่นกัน เช่น ใช้ฐานข้อมูลจริงสำหรับ production และใช้ฐานข้อมูลจำลองสำหรับการทดสอบ

ตัวอย่างโค้ด:

class DatabaseInterface:
    def insert(self, order): pass

class RealDatabase(DatabaseInterface):
    def insert(self, order): # เชื่อมต่อฐานข้อมูลจริง

class OrderService:
    def __init__(self, db: DatabaseInterface):
        self.db = db
    def save(self, order):
        self.db.insert(order)

เราสามารถสลับใช้ฐานข้อมูลจริงหรือจำลองได้ง่าย ๆ ตามความต้องการ


สรุปประเด็นธุรกิจ

วิธีการ ประโยชน์ต่อธุรกิจ
TDD ลดข้อผิดพลาดก่อนถึงมือลูกค้า
ฟังก์ชันย่อย ๆ ทดสอบได้ ปรับปรุงระบบง่าย ขยายงานได้เร็ว
ส่วนประกอบเปลี่ยนได้ (DIP) ลดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง อัปเกรดระบบปลอดภัย
เทสต์อัตโนมัติ ส่งมอบงานได้เร็ว ลดความเสี่ยง

บทสรุปสำหรับเจ้าของธุรกิจ

แนวทาง TDD และการออกแบบซอฟต์แวร์ให้เปลี่ยน/ทดสอบได้ง่าย ไม่ใช่แค่เรื่องของนักพัฒนา แต่คือกลยุทธ์ธุรกิจที่ทำให้ซอฟต์แวร์ของคุณน่าเชื่อถือ ดูแลง่าย ขยายงานได้เร็ว และต้นทุนต่ำ ถ้าทีมพัฒนาอยากนำแนวคิดเหล่านี้มาใช้ จงสนับสนุนพวกเขา คุณจะเห็นผลลัพธ์ในรูปของลูกค้าที่พอใจและธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน


หากสนใจเคสตัวอย่างหรืออยากให้ทีมเราช่วยวิเคราะห์ระบบของคุณ ติดต่อได้เลย!


Get in Touch with us

Chat with Us on LINE

iiitum1984

Speak to Us or Whatsapp

(+66) 83001 0222

Related Posts

Our Products