การใช้ DevOps กับระบบอีคอมเมิร์ซ Django + DRF + Docker + PostgreSQL

⚙️ บทนำ

เมื่อคุณมี Backend Django + DRF (Django REST Framework) ที่ให้บริการ API สำหรับแอปมือถือ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ความเสถียรและความเร็วในการปรับปรุงระบบ”

ทุกครั้งที่อัปเดตสินค้า หรือเพิ่มฟีเจอร์การชำระเงิน อาจทำให้ผู้ใช้มือถือไม่สามารถเชื่อมต่อได้ถ้ามีข้อผิดพลาดเล็กน้อย

นี่คือเหตุผลว่าทำไม DevOps จึงเป็นหัวใจของทีมพัฒนา —
มันคือแนวทางที่รวมการทำงานของ นักพัฒนา (Development) และ ฝ่ายปฏิบัติการ (Operations)
เพื่อให้การพัฒนา ทดสอบ และดีพลอยเป็นไปอย่าง อัตโนมัติและต่อเนื่อง

🧱 ภาพรวมของระบบ

เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในโปรเจกต์นี้

Backend: Django + Django REST Framework (API สำหรับ Mobile App)
Database: PostgreSQL
Containerization: Docker + Docker Compose
Deployment: GitHub Actions → AWS EC2 / DigitalOcean
Monitoring: Prometheus + Grafana

🎯 เป้าหมาย:

ทำให้ระบบอีคอมเมิร์ซ API มีการทดสอบและดีพลอยอัตโนมัติ ปลอดภัย และขยายระบบได้ง่าย

🔄 โครงสร้างการทำงานของ DevOps

flowchart TD
  A["Developer Commit (GitHub)"] --> B["CI Pipeline (GitHub Actions)"]
  B --> C["Build Docker Image"]
  C --> D["Run Unit & API Tests (pytest + DRF client)"]
  D --> E["Push to Registry (Docker Hub / ECR)"]
  E --> F["Deploy via Docker Compose / K8s"]
  F --> G["Monitor with Prometheus + Grafana"]

🧩 ขั้นตอนที่ 1: Continuous Integration (CI)

ทุกครั้งที่นักพัฒนาส่งโค้ดขึ้น GitHub ระบบจะเริ่มการทดสอบอัตโนมัติ

ตัวอย่างไฟล์ .github/workflows/ci.yml

name: Django CI
on: [push, pull_request]

jobs:
  test:
    runs-on: ubuntu-latest
    services:
      postgres:
        image: postgres:14
        env:
          POSTGRES_DB: ecommerce
          POSTGRES_USER: django
          POSTGRES_PASSWORD: password
        ports: ['5432:5432']
    env:
      DATABASE_URL: postgres://django:password@localhost:5432/ecommerce
    steps:
      - uses: actions/checkout@v3
      - name: Set up Python
        uses: actions/setup-python@v4
        with:
          python-version: '3.11'
      - name: Install dependencies
        run: pip install -r requirements.txt
      - name: Run Tests
        run: pytest -v

✅ ผลลัพธ์: โค้ดทุกชิ้นจะถูกทดสอบก่อนรวมเข้ากับระบบหลัก ช่วยลดบั๊กใน API สำหรับแอปมือถือ

🚀 ขั้นตอนที่ 2: Continuous Delivery (CD)

เมื่อการทดสอบผ่าน ระบบจะสร้าง Docker Image และดีพลอยอัตโนมัติ

Dockerfile

FROM python:3.11-slim
WORKDIR /app
COPY requirements.txt .
RUN pip install -r requirements.txt
COPY . .
CMD ["gunicorn", "core.wsgi:application", "--bind", "0.0.0.0:8000"]

docker-compose.yml

version: '3'
services:
  web:
    build: .
    container_name: ecommerce_api
    command: gunicorn core.wsgi:application --bind 0.0.0.0:8000
    ports:
      - "8000:8000"
    depends_on:
      - db
  db:
    image: postgres:14
    environment:
      POSTGRES_DB: ecommerce
      POSTGRES_USER: django
      POSTGRES_PASSWORD: password

🟢 ผลลัพธ์: เมื่อ CI ผ่าน ระบบจะ Build → Push → Deploy อัตโนมัติ
ช่วยให้ทีมสามารถอัปเดตระบบได้ภายในไม่กี่นาที

🧪 ขั้นตอนที่ 3: การทดสอบอัตโนมัติ (Automated Testing)

ใช้ pytest และ APIClient ของ DRF เพื่อทดสอบ Endpoint ของระบบ

from rest_framework.test import APIClient

def test_product_list(api_client):
    client = APIClient()
    response = client.get("/api/products/")
    assert response.status_code == 200
    assert isinstance(response.json(), list)

🧠 คำแนะนำ: รันการทดสอบทุกครั้งก่อนดีพลอย เพื่อป้องกันไม่ให้ API ของแอปมือถือพังใน Production

🧰 ขั้นตอนที่ 4: Infrastructure as Code (IaC)

ใช้ Terraform หรือ Ansible เพื่อจัดการเซิร์ฟเวอร์และฐานข้อมูลผ่านโค้ด

ตัวอย่าง Terraform:

resource "aws_instance" "backend" {
  ami           = "ami-0f3e2d1e1d33b3b57"
  instance_type = "t3.medium"
  tags = { Name = "django-ecommerce" }
}

📦 ข้อดี:

ติดตั้งระบบใหม่ได้ในคลิกเดียว
สร้าง staging/prod ได้เหมือนกัน 100%

📊 ขั้นตอนที่ 5: Monitoring & Logging

ใช้ Prometheus เก็บข้อมูล และ Grafana แสดง Dashboard
สามารถดูได้ทั้ง:

การใช้งาน CPU / RAM
Response Time ของ API
จำนวนการเชื่อมต่อฐานข้อมูล

⚠️ ตัวอย่างแจ้งเตือน:

“API /checkout ใช้เวลาเกิน 2 วินาที – อาจเกิดคอขวดที่ Database”

🔒 ขั้นตอนที่ 6: ความปลอดภัยและการจัดการ Environment

เก็บ Secret ใน GitHub Secrets หรือ AWS SSM
ใช้ .env ใน Docker (ห้าม commit ขึ้น repo)
จำกัดสิทธิ์ SSH เฉพาะ IP ที่จำเป็น

ตัวอย่าง .env:

DEBUG=False
DATABASE_URL=postgres://django:password@db:5432/ecommerce
SECRET_KEY=เปลี่ยนรหัสนี้ก่อนใช้งานจริง

📱 ขั้นตอนที่ 7: การเชื่อมต่อกับ Mobile App

API ที่สร้างด้วย DRF จะให้บริการกับแอปมือถือโดยตรง
รองรับฟีเจอร์:

ระบบล็อกอิน / สมัครสมาชิก
รายการสินค้า / ตะกร้าสินค้า / ชำระเงิน
JWT Authentication

CI/CD ช่วยให้ทุกครั้งที่อัปเดต API

แอปมือถือสามารถเชื่อมต่อกับระบบใหม่ได้โดยไม่ต้องอัปเดตแอป

🌐 ภาพรวมสถาปัตยกรรมระบบ

graph TD
  APP["Mobile App"] --> API["Django REST Framework API"]
  API --> DB["PostgreSQL"]
  API --> CACHE["Redis / Celery Worker"]
  API --> MON["Prometheus + Grafana"]
  DEV["CI/CD Pipeline (GitHub Actions)"] --> API
  API --> DOCKER["Docker Container on EC2"]

🧭 ประโยชน์ของ DevOps สำหรับ Django + DRF

ประโยชน์	รายละเอียด
🚀 ปล่อยฟีเจอร์ได้เร็วขึ้น	Pipeline ทำงานอัตโนมัติ
✅ คุณภาพสูงขึ้น	ทดสอบอัตโนมัติทุกครั้งก่อนดีพลอย
🔒 ปลอดภัย	จัดการ Secrets อย่างเป็นระบบ
⚙️ ขยายระบบได้ง่าย	ใช้ Infrastructure as Code
📈 ตรวจสอบได้จริง	Dashboard แสดงสถานะระบบแบบ Real-Time