Agentic AI และ MCP Servers: ก้าวต่อไปของระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ
🧩 บทนำ: จากแชตบอทสู่ระบบที่คิดและตัดสินใจได้เอง
ปัจจุบัน AI จำนวนมากสามารถตอบคำถาม สรุปข้อมูล หรือช่วยทำงานเล็ก ๆ ได้
แต่คลื่นลูกใหม่ของ AI ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว — นั่นคือ Agentic AI ซึ่งสามารถ วางแผน ตัดสินใจ และเรียนรู้ได้เอง
และ MCP (Model Context Protocol) ที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้ AI เข้าถึงระบบจริงได้อย่างปลอดภัย
เมื่อสองเทคโนโลยีนี้ทำงานร่วมกัน จะกลายเป็นระบบอัจฉริยะที่เชื่อมโยงระหว่าง
ความตั้งใจของมนุษย์ + การคิดของ AI + การปฏิบัติจริงของระบบ
ส่งผลให้เกิดระบบที่สามารถ ตรวจสอบ แก้ไข และปรับปรุงตนเอง ได้อย่างอัตโนมัติ
🤖 Agentic AI คืออะไร
Agentic AI เป็นแนวคิด AI ยุคใหม่ที่ไม่เพียงตอบสนองคำสั่ง แต่สามารถ คิดและตัดสินใจเองได้
องค์ประกอบหลักของ Agentic AI ได้แก่
- เป้าหมาย (Goals) – สิ่งที่ระบบต้องการบรรลุ
- ความจำ (Memory) – ประสบการณ์จากงานก่อนหน้า
- เครื่องมือ (Tools) – สิ่งที่ AI สามารถใช้งานได้
- ตรรกะ (Reasoning) – การวางแผนและลำดับขั้นตอน
ตัวอย่าง:
“ตรวจสอบสถานะของสถานีชาร์จ EV และรีสตาร์ทระบบที่ล่ม”
Agentic AI จะทำตามลำดับดังนี้
- ดึงสถานะของเครื่องชาร์จ
- ตรวจพบสถานีที่ออฟไลน์
- รีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบผลลัพธ์อีกครั้ง
- บันทึกผลรายงาน
นี่คือ AI ที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย (Goal-Driven Autonomy) อย่างแท้จริง
🔌 MCP (Model Context Protocol) คืออะไร
MCP คือโปรโตคอลมาตรฐานที่ทำให้ AI สามารถเข้าถึงโลกภายนอกได้อย่างปลอดภัย
หน้าที่หลักคือให้ AI สามารถ:
- อ่าน / เขียนไฟล์ได้
- ดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลได้
- เรียก API ของระบบอื่นได้
- รันคำสั่งบางอย่างที่ได้รับอนุญาต
ทุกฟังก์ชันจะอยู่ในรูปแบบของ MCP Server ซึ่งเหมือนปลั๊กอินที่ต่อขยายความสามารถให้ AI
ตัวอย่าง MCP Servers
| MCP Server | หน้าที่ |
|---|---|
filesystem |
อ่านไฟล์ในเครื่องอย่างปลอดภัย |
postgres |
ดึงข้อมูลจาก PostgreSQL หรือ DBMS อื่น |
docker |
จัดการ Container ได้ |
ocpp_api |
ติดต่อสถานีชาร์จ EV ผ่าน API |
process |
รันคำสั่งระบบแบบจำกัดสิทธิ์ |
🧠 เมื่อ Agentic AI รวมกับ MCP = ระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาดจริง
flowchart TD
subgraph UserLayer["ชั้นผู้ใช้งาน"]
A["🧑 ผู้ควบคุมระบบ"]
B["💬 แพลตฟอร์มสนทนา (ChatGPT / SimpliEdge)"]
end
subgraph AgentLayer["ชั้น Agentic AI"]
C["🧠 แกนกลาง AI (มีการวางแผนและจดจำข้อมูล)"]
end
subgraph MCPLayer["ชั้น MCP Server"]
D["🧩 MCP: Docker"]
E["📦 MCP: PostgreSQL"]
F["🌐 MCP: OCPP API"]
G["📁 MCP: Filesystem"]
end
subgraph SystemLayer["ระบบปฏิบัติการจริง"]
H["🔋 เครื่องชาร์จ EV"]
I["🧱 OCPP Backend"]
J["💾 ฐานข้อมูลและ Logs"]
end
A --> B
B --> C
C --> D
C --> E
C --> F
C --> G
D --> I
E --> J
F --> H
G --> I
ตัวอย่างการทำงานจริง
ผู้ใช้: “ตรวจสอบเครื่องชาร์จ EV ทั้งหมดและรีสตาร์ทที่ออฟไลน์”
Agent AI จะทำงานดังนี้
- เรียก
ocpp_apiMCP เพื่อดึงสถานะ - วิเคราะห์ว่าเครื่องใดออฟไลน์
- ใช้
dockerMCP รีสตาร์ทคอนเทนเนอร์ - บันทึกผลใน
postgresMCP - รายงานผลให้ผู้ใช้
✅ ผลลัพธ์:
“พบเครื่องชาร์จ 2 แห่ง (TH-BKK-01 และ TH-CNX-03) ที่ออฟไลน์ ได้รีสตาร์ทและกลับมาออนไลน์เรียบร้อย”
🏗️ กรณีศึกษา: ระบบจัดการสถานีชาร์จ EV
สำหรับ Simplico สถาปัตยกรรมนี้เหมาะอย่างยิ่งกับงานด้านพลังงาน IoT และ OCPP 1.6 ที่บริษัทพัฒนาอยู่
โดย Agentic AI จะรับหน้าที่วิเคราะห์และสั่งงาน
ส่วน MCP Servers จะเชื่อมต่อกับ
- เซิร์ฟเวอร์ Dockerized ของ OCPP
- ฐานข้อมูล PostgreSQL หรือ MongoDB
- Log และ ไฟล์สถานะระบบ
- REST API ของสถานีชาร์จจริง
ผลลัพธ์คือ
- การตรวจสอบและแก้ปัญหาเร็วขึ้น
- ลด Downtime
- บันทึกข้อมูลอัตโนมัติ
- เพิ่มความเสถียรให้ระบบ
🔒 ทำไม MCP + Agentic AI ถึงสำคัญ
| ข้อดี | รายละเอียด |
|---|---|
| ปลอดภัย | MCP จำกัดสิทธิ์ AI ให้เข้าถึงเฉพาะข้อมูลที่กำหนด |
| ยืดหยุ่น | เพิ่มหรือลด Tool ได้ง่าย เพียงต่อ MCP Server ใหม่ |
| ตรวจสอบย้อนหลังได้ | ทุกคำสั่งและผลลัพธ์มีการบันทึก |
| ทำงานได้ทุกสภาพแวดล้อม | เชื่อมได้ทั้งระบบภายในและ Cloud / IoT |
| อัตโนมัติเต็มรูปแบบ | AI ตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องรอมนุษย์ทุกขั้นตอน |
🧰 เทคโนโลยีที่ใช้
| ชั้นระบบ | เทคโนโลยีตัวอย่าง |
|---|---|
| Agentic Layer | LangChain / CrewAI / SimpliEdge Agent |
| MCP Servers | Python (modelcontextprotocol) , Docker SDK |
| API / Backend | FastAPI (OCPP) , Flask |
| Database | PostgreSQL / MongoDB |
| UI / Chat | ChatGPT หรือ SimpliEdge Web Dashboard |
🚀 วิสัยทัศน์: ระบบที่ซ่อมแซมตัวเองได้
ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นระบบชาร์จ EV ฟาร์มอัจฉริยะ หรือ CCTV เมืองอัจฉริยะ
ระบบเหล่านี้จะสามารถ ตรวจจับ วิเคราะห์ และซ่อมแซมตัวเองได้แบบเรียลไทม์
นี่คือพลังของการผสาน Agentic AI + MCP
ที่จะเปลี่ยน AI จากผู้ช่วยให้กลายเป็น ระบบอัตโนมัติที่เชื่อถือได้จริง
🧭 สรุป
- Agentic AI ให้ความฉลาด
- MCP ให้ความปลอดภัย
เมื่อรวมกัน จะได้ AI ที่สามารถทำงาน ตัดสินใจ และควบคุมระบบจริง ได้อย่างปลอดภัย อธิบายได้ และขยายต่อได้ง่าย
ที่ Simplico เรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างแพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับพลังงาน IoT และระบบองค์กรในอนาคต
Get in Touch with us
Related Posts
- Computer Vision บน Edge Device และสภาพแวดล้อมทรัพยากรจำกัด: ความท้าทายและโอกาสสำหรับไทย
- Simplico — โซลูชัน AI Automation และระบบซอฟต์แวร์เฉพาะทางสำหรับธุรกิจไทย
- AI สำหรับ Predictive Maintenance — จากเซนเซอร์สู่โมเดลพยากรณ์
- ผู้ช่วย AI สำหรับนักบัญชี — ทำอะไรได้ และทำอะไรยังไม่ได้
- ทำไมธุรกิจ SME ถึงจ่ายค่า Custom ERP แพงเกินจริง — และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
- ทำไมเราถึงสร้าง SimpliShop — และแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตได้อย่างไร
- Fine-Tuning vs Prompt Engineering แบบเข้าใจง่ายสำหรับผู้นำองค์กรไทย
- บทนำสู่ระบบชลประทานแบบแม่นยำ (Precision Irrigation)
- IoT Sensors ไม่ได้สำคัญที่สุด — “การเชื่อมข้อมูล” ต่างหากคือหัวใจของ Smart Farming
- พัฒนา Mobile Application ด้วย React / React Native
- AI Vertical Integration: เปลี่ยนธุรกิจไทยให้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
- คู่มือองค์กรไทย: วิธีนำ AI มาใช้แบบเป็นขั้นตอน — ฉบับปี 2025
- ทำไม EV Fleet Management SaaS ที่มี AI Optimization คือ “หัวใจสำคัญ” ของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
- 7 Use Cases ของระบบ Machine Learning ที่กำลังเปลี่ยนอนาคตโรงงานและธุรกิจไทย
- การใช้ LSTM ในการพยากรณ์ระดับน้ำท่วม: ทางออกใหม่ของเมืองไทยเพื่อรับมือฝนตกหนักและน้ำรอระบาย
- ข้อเสนอระบบ SimpliMES Lite — โซลูชัน MES แบบเบาสำหรับโรงงานไทย
- ทำไมร้านค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จถึงเลือกใช้ SimpliShop: สร้าง เติบโต และชนะตลาดของคุณ
- Vertical Integration of AI: อนาคตใหม่ของธุรกิจยุคดิจิทัล
- ระบบ AI Prediction — เปลี่ยนการตัดสินใจของคุณให้ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
- ถ้า AI Bubble แตก จะเกิดอะไรขึ้น? (วิเคราะห์จริง ไม่อิงกระแส)













