วิธีเขียน Use Case ให้เข้าใจง่าย และใกล้เคียงลูกค้าที่สุด

เวลาจะเริ่มทำโปรเจกต์ใหม่ หลายคนมักเริ่มจากการลิสต์ฟีเจอร์: “ต้องมีระบบล็อกอิน ทำแดชบอร์ด เชื่อมจ่ายเงิน”
แต่ฟีเจอร์อย่างเดียวไม่ได้ตอบคำถามที่สำคัญที่สุดว่า… ลูกค้าจริง ๆ เขาต้องการอะไร?

ตรงนี้เองที่ Use Case เข้ามาช่วย

Use Case ก็คือ เรื่องเล่าสั้น ๆ ว่าคนจริง ๆ ใช้ระบบของคุณอย่างไร เพื่อทำสิ่งที่เขาต้องการให้สำเร็จ
ไม่ใช่ภาษาวิศวะ ไม่ใช่โค้ด แต่มันคือการ ลองใส่รองเท้าลูกค้า แล้วถามตัวเองว่า:

👉 “ถ้าเขาเปิดแอปของเรา เขาอยากทำอะไร? เขากดตรงไหนก่อน? แล้วอะไรเกิดขึ้นต่อ?”


🌟 Use Case ที่ดีควรเป็นยังไง?

ลองคิดว่า Use Case เหมือน บทสนทนาระหว่างลูกค้ากับระบบ

  • ลูกค้า (Actor) พูดว่า: “ฉันอยากทำสิ่งนี้”
  • ระบบ ตอบว่า: “โอเค เดี๋ยวช่วยแบบนี้นะ”
  • แล้วเรื่องราวก็เดินไปเรื่อย ๆ จนลูกค้าทำสำเร็จ หรือเจอทางเบี่ยงที่ต้องแก้

ง่าย ๆ ธรรมชาติ และเข้าใจได้ทุกคน


🎯 ทำไมมันถึงสำคัญ

  • ช่วยให้โฟกัสที่ เป้าหมายของลูกค้า ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์
  • เป็นภาษากลางที่ ธุรกิจ ดีไซน์ และนักพัฒนาคุยกันเข้าใจ
  • ทำให้เราไม่ลืม กรณีผิดพลาด เช่น ลืมรหัสผ่าน จ่ายเงินไม่ผ่าน
  • ใช้เป็น สคริปต์ทดสอบระบบ ได้เลย

✍️ วิธีเขียน Use Case (Step by Step)

  1. หาตัวละคร (Actor) – ใครกำลังใช้ระบบ
  2. กำหนดเป้าหมาย – เขาอยากทำอะไรให้สำเร็จ
  3. ตั้งฉาก – มีอะไรเกิดขึ้นก่อน (Precondition) และอะไรเป็นตัวเริ่ม (Trigger)
  4. เล่าเส้นทางหลัก – เรื่องราวแบบ “Happy Path” ที่ทำสำเร็จ
  5. เพิ่มทางเบี่ยง – ถ้าเกิดปัญหาล่ะ?
  6. สรุปตอนจบ – หลัง Use Case จบลง จะเกิดอะไรขึ้น (สำเร็จหรือไม่สำเร็จ)

📝 ตัวอย่าง Use Case จริง

1. สั่งซื้อสินค้าออนไลน์

Actor: ลูกค้า
เป้าหมาย: ซื้อสินค้า

เรื่องราว:

  • ลูกค้าตรวจสอบตะกร้า
  • ระบบแสดงราคากับค่าขนส่ง
  • ลูกค้ากรอกที่อยู่ เลือกวิธีจ่ายเงิน
  • การชำระเงินผ่าน
  • ระบบยืนยันและส่งอีเมล

ทางเบี่ยง:

  • ที่อยู่ผิด → ให้แก้ไข
  • บัตรเครดิตใช้ไม่ได้ → ให้เลือกวิธีอื่น

2. รีเซ็ตรหัสผ่าน

Actor: ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้ว
เป้าหมาย: เข้าระบบอีกครั้ง

เรื่องราว:

  • กด “ลืมรหัสผ่าน”
  • ระบบถามอีเมล
  • กรอกอีเมล → ได้ลิงก์รีเซ็ต
  • คลิกลิงก์ ตั้งรหัสใหม่ แล้วล็อกอิน

ทางเบี่ยง:

  • ไม่มีอีเมลนี้ → แจ้ง error
  • ลิงก์หมดอายุ → ให้ขอใหม่

3. ติดตามพัสดุ

Actor: ลูกค้า
เป้าหมาย: ดูสถานะการจัดส่ง

เรื่องราว:

  • กด “Track Order”
  • ระบบดึงข้อมูลจากขนส่ง
  • แสดงสถานะและวันที่คาดว่าจะถึง

ทางเบี่ยง:

  • ระบบขนส่งล่ม → ขึ้น “ลองใหม่ทีหลัง”
  • หมายเลขไม่ถูกต้อง → แนะนำให้ติดต่อแอดมิน

4. ลงประกาศงาน (แอป Smart Farming)

Actor: เจ้าของสวน
เป้าหมาย: หาคนมาช่วยทำงานในสวน

เรื่องราว:

  • กด “โพสต์งานใหม่”
  • กรอกรายละเอียดงาน วันที่ ค่าจ้าง
  • ระบบบันทึกงานและแจ้งไปยังแรงงานใกล้เคียง
  • แรงงานสนใจ กดสมัคร

ทางเบี่ยง:

  • ข้อมูลไม่ครบ → ระบบขอให้กรอกเพิ่ม
  • ไม่มีแรงงานใกล้เคียง → แนะนำให้ขยายพื้นที่

💡 สรุปท้ายเรื่อง

Use Case ไม่ใช่แค่เอกสาร แต่คือการ เล่าเรื่องแทนลูกค้า

ครั้งหน้าที่คุณจะเริ่มทำฟีเจอร์ใหม่ ลองไม่ถามว่า “ต้องเขียนโค้ดอะไร?”
แต่ถามว่า:

👉 “ถ้าลูกค้าเล่าเรื่องการใช้งาน เขาจะเล่ายังไง?”

คุณจะได้ระบบที่ตอบโจทย์จริง ๆ ของลูกค้า


Get in Touch with us

Chat with Us on LINE

iiitum1984

Speak to Us or Whatsapp

(+66) 83001 0222

Related Posts

Our Products